วันพุธที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

สรุปข่าว ครั้งที่ 3

Kaidee เผยสถิติล่าสุดทุกๆ 17 วินาทีมีของ 1 ชิ้นขายได้ที่นี่


 (ขายดี) แหล่งซื้อ-ขายของมือสองออนไลน์ เผยถึงสถิติการซื้อ-ขายผ่านแพลตฟอร์มเมื่อเดือนมิถุนายน 2559 ที่ผ่านมาว่า “ในทุกๆ 17 วินาทีมีสินค้า 1 ชิ้นขายได้ผ่าน Kaidee” นี่เท่ากับว่าเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการพ้ฒนาแพลตฟอร์มเพื่อให้คนไทยสามารถซื้อ-ขายของมือสองได้ง่าย สะดวก และรวดเร็ว

    “เพราะเราเชื่อว่าการซื้อ-ขายของมือสองช่วยให้ชีวิตคนไทยดีขึ้น ที่ Kaidee เราจึงพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อให้การซื้อ-ขายง่ายยิ่งขึ้น” นี่คือแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ชาว Kaidee ไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาและคิดค้นบริการใหม่ๆ เพื่อให้ผู้ขายและผู้ซื้อเจอกันบนแพลตฟอร์มได้ง่ายที่สุด ได้สินค้าที่ถูกใจในราคาที่ใช่ได้มากที่สุด ทั้งนี้ เพราะการซื้อ-ขายของมือสองเปรียบเสมือนการส่งต่อสิ่งๆ ดีอีกด้วย

    จากเสียงผู้ใช้งานบางคนก็บอกว่าลงขายเพียงไม่กี่นาทีก็ขายได้เลย บ้างก็ว่าไม่กี่ชั่วโมงก็ขายได้ อีกหลายคนก็บอกว่าไม่กี่วัน ไม่กี่อาทิตย์ และก็มีอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่แน่ใจว่าการลงขายของไม่ได้ใช้ที่ Kaidee นั้นจะขายได้จริงรึเปล่า หลายคนตั้งคำถามมากมายเกี่ยวกับประเด็นนี้

    เพื่อให้คลายข้อสงสัยทั้งหมด จากสถิติเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีผู้ใช้งานแจ้งกลับมาว่าสินค้า/บริการที่ประกาศขายบน Kaidee นั้นสามารถขายได้แล้วทั้งหมด 161,910 รายการประกาศ และเมื่อทำค่าเฉลี่ยออกมาแล้ว พบว่า ในทุกๆ 17 วินาทีมีของขายได้ 1 รายการที่ Kaidee 

    และหากแยกตามแต่ละหมวดหมู่ ก็จะพบว่าระยะเวลาโดยเฉลี่ยก็จะแตกต่างกันไปตามประเภท โดย 10 หมวดหมู่ที่มีของขายได้เร็วที่สุดมีดังนี้

1.    หมวดรถมือสอง (รวมอะไหล่รถ ประดับยนต์ และยานพาหนะอื่นๆ) เฉลี่ยทุกๆ 1.38 นาที ขายได้ 1 รายการ
2.    หมวดมือถือ แท็บเล็ต เฉลี่ยทุกๆ 1.51 นาที ขายได้ 1 รายการ
3.    หมวดมอเตอร์ไซค์ เฉลี่ยทุกๆ 2.52 นาที ขายได้ 1 รายการ
4.    หมวดพระเครื่อง เฉลี่ยทุกๆ 4.01 นาที ขายได้ 1 รายการ
5.    หมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า เฉลี่ยทุกๆ 2.07 นาที ขายได้ 1 รายการ
6.    หมวดเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย เฉลี่ยทุกๆ 4.52 นาที ขายได้ 1 รายการ
7.    หมวดกระเป๋า เฉลี่ยทุกๆ 7.25 นาที ขายได้ 1 รายการ
8.    หมวดจักรยาน เฉลี่ยทุกๆ 8.31 นาที ขายได้ 1 รายการ
9.    หมวดรองเท้า เฉลี่ยทุกๆ 8.42 นาที ขายได้ 1 รายการ
10.    หมวดบ้านและสวน เฉลี่ยทุกๆ 8.58 นาที ขายได้ 1 รายการ

    นายทิวา ยอร์ค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร/เฮดโค้ช Kaidee กล่าวว่า “จากสถิติที่เราพบในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทำให้ทีมเรามั่นใจว่าบริการของ Kaidee ตอบโจทย์ได้ทั้งผู้ขายที่ต้องการปล่อยของที่ไม่ได้ใช้ไม่ว่าจะเป็นเพราะไม่ต้องการแล้วหรือว่าอยากส่งต่อให้คนอื่นดูแล และผู้ซื้อที่ต่างก็มองหาของมือสองในราคาที่ถูกใจและอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ หรือสินค้าที่ตนเองต้องการพบที่นี่ ทั้งสองฝ่ายก็พึงพอใจกับประสบการณ์ในการใช้บริการของเรา และนี่ก็เป็นกำลังใจสำคัญให้กับทีมงานของเราในการพัฒนาระบบเพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก”

    “ทางทีม Kaidee ขอย้ำว่า จุดประสงค์หลักของเราที่เปิดให้บริการแหล่งซื้อ-ขายของมือสองออนไลน์นี้ก็เพื่อให้คนไทยสามารถส่งต่อของที่ไม่ได้ใช้ เพื่อทำให้เกิดประโยชน์ได้ เพราะสิ่งของบางชิ้นที่คุณไม่คิดว่าจะมีใครต้องการนั้นมีคนซื้อรออยู่อย่างแน่นอน และคุณก็สามารถทำให้ของชิ้นนั้นเกิดประโยชน์และมีคุณค่าอีกครั้งได้เพียงแค่เอามาประกาศขายกับเรา” นายทิวา กล่าวต่อ

    นายทิวา กล่าวปิดท้ายว่า “ลองคิดดูนะครับว่า หากสิ่งของที่คุณไม่ได้ใช้อีกต่อไปแล้วพูดได้ พวกเขาคงอยากบอกกับคุณว่าเขาอยากกลับไปทำประโยชน์ได้อีกครั้ง”

วันพฤหัสบดีที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

สรุปบทที่ 6





สรุป

             ประเทศไทยมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อคุ้มครองผู้ได้รับความเสียหายที่เกิดจากผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์สำหรับการกระทำผิด โดยกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ กำหนดขึ้นเพื่อรองรับรูปแบบการกระทำผิดหลากหลายรูปแบบ นับตั้งแต่การเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์โดยสปายแวร์  สนิฟเฟอร์ ฟิชชิ่ง  การรบกวนระบบคอมพิวเตอร์โดยไวรัส DOS การสแปมอีเมล การใช้โปรแกรมเจาะระบบโดยแฮกเกอร์ เป็นต้น
             ฉะนั้นผู้ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศจึงควรมีจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ  เพื่อจะได้อยู่ในสังคมออนไลน์ร่วมกันอย่างสันติสุข  สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยต้องพิจารณาถึง ความเป็นส่วนตัวเคารพในสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่น  มีความรับผิดชอบต่อการเผยแพร่ข่าวสารข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำ  การไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ในความเป็นเจ้าของของผู้อื่น  รวมถึงการเข้าถึงข้อมูลโดยสิทธิอันชอบธรรมไม่ละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่น
             นอกจากนี้ผู้ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศก็ควรรู้แนวทางป้องกันภัยจากการก่ออาชญากรรมคอมพิวเตอร์
อาทิ  การระมัดระวังในการเข้าเว็บไซต์ต่าง ๆ เพื่อการดาวน์โหลดข้อมูล  เพราะอาจติดไวรัสหรือสปายแวร์ได้  การติดตั้้งซอฟต์แวร์เพื่อป้องกันไวรัส  การใช้ฟิตเตอร์แพ็กเก็ตสำหรับกรองข้อมูลเพื่อป้องกันการโจมตีแบบ DOS การติดตั้งไฟร์วอลล์เพื่อป้องกันการบุกรุกจากแฮกเกอร์ เป็นต้น
           ในอนาคตแนวโน้มด้านความปลอดภัย องค์กรของรัฐควรให้ความสำคัญต่อการป้องกันการบุกรุกหรือถูกโจมตีระบบเครือข่ายขององค์กรให้มาก เพราะเป็นเป้าหมายของแฮกเกอร์ เนื่องจากระบบป้องกันยังไม่รัดกุมพอจึงง่ายต่อการเจาะระบบ รวมถึงการระมัดระวังในการให้สิทธิ์การเข้าใช้ระบบบุคลากรในองค์กร การนำฮาร์ดแวร์มาใช้ภายในองค์กร จึงควรควบคุมอย่างเข้มงวด

กิจกรรมท้ายบทที่ 6

1. จงระบุความสำคัญของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศบนพื้นฐานของคุณธรรม จริยธรรม
     ตอบ  อย่างที่เรารู้กันว่าในปัจจุบันคอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทต่อการดำรงชีวิตประจำวันของมนุษย์มากยิ่ง ขึ้น แต่ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์จะมีประโยชน์มากเพียงไร หากพิจารณาอีกด้านหนึ่งแล้ว คอมพิวเตอร์ก็อาจจะเป็นภัยได้เช่นกัน หากผู้ใช้ไม่ระมัดระวังหรือนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้น ในการ ใช้งานคอมพิวเตอร์ร่วมกันในสังคม ในแต่ละประเทศจึงได้มีการกำหนดระเบียบ กฎเกณฑ์ รวมถึงกฎหมายที่ ใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติเพื่อให้เกิดคุณธรรมและจริยธรรมในการในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
       ซึ่งบัญญัติ 10 ข้อที่ผู้ใช้เทคโนโลยีควรยึดถือและปฏิบัติตามมีดังนี้
1.ไม่ใช้คอมพิวเตอร์ทำร้าย หรือละเมิดผู้อื่น
2.ไม่ใช้คอมพิวเตอร์ในการรบกวนการทำงานของผู้อื่น
3.ไม่ใช้คอมพิวเตอร์ในการเข้าถึงข้อมูล หรือคอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต
4.ไม่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการโจรกรรมข้อมูลข่าวสาร
5.ไม่ใช้คอมพิวเตอร์สร้างหลักฐานที่เป็นเท็จ
6.ไม่คัดลอกโปรแกรมผู้อื่นที่มีลิขสิทธิ์
7.ไม่ละเมิดการใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์โดยที่ตนเองไม่มีสิทธิ์
8.ไม่นำเอาผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตน
9.คำนึงถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับสังคมอันติดตามมาจากการกระทำ
10.ไม่ใช้คอมพิวเตอร์ก่อความเสียหายหรือความรำคาญแก่ผู้อื่น เช่น การนำภาพหรือข้อมูลส่วนตัวของบุคคลไปลงบนอินเตอร์เน็ตโดยไม่ได้รับอนุญาต
11.ไม่เผยแพร่ข้อมูลที่ไม่เหมาะสม หรือไม่ควรจะเผยแพร่
12.ใช้คอมพิวเตอร์โดยเคารพกฎระเบียบ และกติกามารยาท
        โดยทั่วไป เมื่อพิจารณาถึงคุณธรรมจริยธรรมเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และสารสนเทศแล้ว จะกล่าวถึงใน 4 ประเด็น ที่รู้จักกันในลักษณะตัวย่อว่า PAPA ประกอบด้วย
1. ความเป็นส่วนตัว (Information Privacy)
หมายถึง สิทธิที่จะอยู่ตามลำพัง และเป็นสิทธิที่เจ้าของสามารถที่จะควบคุมข้อมูลของตนเองในการเปิดเผยให้กับผู้อื่น สิทธินี้ใช้ได้ครอบคลุมทั้งปัจเจกบุคคล กลุ่มบุคคล และองค์การต่างๆ
ปัจจุบันมีประเด็นเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวที่เป็นข้อหน้าสังเกตดังนี้
         1.1.การเข้าไปดูข้อความในจดหมายอิเล็กทรอนิกส์และการบันทึกข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ รวมทั้งการบันทึก-แลกเปลี่ยนข้อมูลที่บุคคลเข้าไปใช้บริการเว็บไซต์และกลุ่มข่าวสาร
         1.2.การใช้เทคโนโลยีในการติดตามความเคลื่อนไหวหรือพฤติกรรมของบุคคล ซึ่งทำให้สูญเสียความเป็นส่วนตัว ซึ่งการกระทำเช่นนี้ถือเป็นการผิดจริยธรรม
         1.3.การใช้ข้อมูลของลูกค้าจากแหล่งต่างๆ เพื่อผลประโยชน์ในการขยายตลาด
         1.4.การรวบรวมหมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อีเมล หมายเลขบัตรเครดิต และข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ เพื่อนำไปสร้างฐานข้อมูลประวัติลูกค้าขึ้นมาใหม่ แล้วนำไปขายให้กับบริษัทอื่น
          ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของข้อมูลและสารสนเทศ จีงควรจะต้องระวังการให้ข้อมูล โดยเฉพาะการใช้อินเตอร์เน็ตที่มีการใช้โปรโมชั่น หรือระบุให้มีการลงทะเบียนก่อนเข้าใช้บริการ เช่น ข้อมูลบัตรเครดิต และที่อยู่อีเมล
2. ความถูกต้อง (Information Accuracy)
ในการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการรวบรวม จัดเก็บ และเรียกใช้ข้อมูลนั้น คุณลักษณะที่สำคัญประการหนึ่ง คือ ความน่าเชื่อถือได้ของข้อมูล ทั้งนี้ จะขึ้นอยู่กับความถูกต้องในการบันทึกข้อมูลด้วย โดยทั่วไปจะพิจารณาว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อความถูกต้องของข้อมูลที่จัดเก็บและเผยแพร่ ดังนั้น ในการจัดทำข้อมูลและสารสนเทศให้มีความถูกต้องและน่าเชื่อถือนั้น ข้อมูลควรได้รับการตรวจสอบความถูกต้องก่อนที่จะนำเข้าฐานข้อมูล รวมถึงการปรับปรุงข้อมูลให้มีความทันสมัยอยู่เสมอ นอกจากนี้ ควรให้สิทธิแก่บุคคลในการเข้าไปตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลตนเองด้วย
3. ความเป็นเจ้าของ (Information Property)
สิทธิความเป็นเจ้าของ หมายถึง กรรมสิทธิ์ในการถือครองทรัพย์สิน ซึ่งอาจเป็นทรัพย์สินทั่วไปที่จับต้องได้ เช่น คอมพิวเตอร์ รถยนต์ หรืออาจเป็นทรัพย์สินทางปัญญา (ความคิด) ที่จับต้องไม่ได้ เช่น บทเพลงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ แต่สามารถถ่ายทอดและบันทึกลงในสื่อต่างๆ ได้ เช่น สิ่งพิมพ์ เทป ซีดีรอม เป็นต้น
โดยในการคัดลอกโปรแกรมคอมพิวเตอร์ให้กับเพื่อน เป็นการกระทำที่จะต้องพิจารณาให้รอบคอบก่อนว่าโปรแกรมที่จะทำการคัดลอกนั้น เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ท่านมีสิทธ์ในระดับใด
4. การเข้าถึงข้อมูล (Data Accessibility)
ปัจจุบันการเข้าใช้งานโปรแกรม หรือระบบคอมพิวเตอร์มักจะมีการกำหนดสิทธิตามระดับของผู้ใช้งาน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันการเข้าไปดำเนินการต่างๆ กับข้อมูลของผู้ใช้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และเป็นการรักษาความลับของข้อมูล ดังนั้น ในการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์จึงได้มีการออกแบบระบบรักษาความปลอดภัยในการเข้าถึงของผู้ใช้ และการเข้าถึงข้อมูลของผู้อื่นโดยไม่ได้รับความยินยอมนั้น ก็ถือเป็นการผิดจริยธรรมเช่นเดียวกับการละเมิดข้อมูลส่วนตัว
         ดังนั้นในการใช้งานคอมพิวเตอร์และเครือข่ายร่วมกันให้เป็นระเบียบ หากผู้ใช้ร่วมใจกันปฏิบัติตามระเบียบและข้อบังคับของแต่ละหน่วยงานอย่างเคร่งครัดแล้ว การผิดจริยธรรมตามประเด็นดังที่กล่าวมาข้างต้นก็คงจะไม่เกิดขึ้น
         แต่ถ้าผู้ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศไม่คำนึงถึงคุณธรรมจริยธรรมก็อาจทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมามากมาย อาทิเช่น
1. ทำให้เกิดอาชญากรรม
เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถนำมาใช้ในการก่อให้เกิดอาชญากรรมได้โจรผู้ร้ายใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการวางแผนการปล้น วางแผนการโจรกรรม มีการลักลอบใช้ข้อมูลข่าวสาร มีการโจรกรรมหรือแก้ไขตัวเลขบัญชีด้วยคอมพิวเตอร์ การลอบเข้าไปแก้ไขข้อมูลอาจทำให้เกิดปัญหาหลายอย่าง เช่น การแก้ไขระดับคะแนนของนักเรียน การแก้ไขข้อมูลในโรงพยาบาลเพื่อให้การรักษาพยาบาลคนไข้ผิด ซึ่งเป็นการทำร้ายหรือฆาตกรรมดังที่เห็นในภาพยนตร์
2. ทำให้ความสัมพันธ์ของมนุษย์เสื่อมถอย
การใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สื่อสารทำให้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้โดยไม่ต้องเห็นตัว การใช้งานคอมพิวเตอร์หรือแม้แต่การเล่นเกมที่มีลักษณะการใช้งานเพียงคนเดียว ทำให้ความสัมพันธ์กับผู้อื่นลดน้อยลง ผลกระทบนี้ทำให้มีความเชื่อว่า มนุษยสัมพันธ์ของบุคคลจะน้อยลง สังคมใหม่จะเป็นสังคมที่ไม่ต้องพึ่งพาอาศัยกันมาก
3. ทำให้เกิดความวิตกกังวล
ผลกระทบนี้เป็นผลกระทบทางด้านจิตใจของกลุ่มบุคคลบางกลุ่มที่มีความวิตกกังวลว่าคอมพิวเตอร์อาจทำให้คนตกงานมากขึ้น มีการใช้งานหุ่นยนต์มาใช้งานมากขึ้น มีระบบการผลิตที่อัตโนมัติมากขึ้น ทำให้ผู้ใช้แรงงานอาจว่างงานมากขึ้น ซึ่งความคิดเหล่านี้จะเกิดกับบุคคลบางกลุ่มเท่านั้น แต่ถ้าบุคคลเหล่านั้นสามารถปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยี หรือมีการพัฒนาให้มีความรู้ความสามารถสูงขึ้นแล้วปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้น
4. ทำให้เกิดความเสี่ยงภัยทางด้านธุรกิจ
ธุรกิจในปัจจุบันจำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศมากขึ้น ข้อมูลข่าวสารทั้งหมดของธุรกิจฝากไว้ในศูนย์ข้อมูล เช่น ข้อมูลลูกหนี้การค้า ข้อมูลสินค้า และบริการต่างๆ หากเกิดการสูญหายของข้อมูล อันเนื่องมาจากเหตุอุบัติภัย เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม หรือด้วยสาเหตุใดก็ตามที่ทำให้ข้อมูลหายย่อมทำให้เกิดผลกระทบต่อธุรกิจโดยตรง
5. ทำให้การพัฒนาอาวุธมีอำนาจทำลายสูงมากขึ้น
ประเทศที่เป็นต้นตำรับของเทคโนโลยี สามารถนำเอาเทคโนโลยีไปใช้ในการสร้างอาวุธที่มีอานุภาพการทำลายสูง ทำให้หมิ่นเหม่ต่อสงครามที่มีการทำลายสูงเกิดขึ้น
6. ทำให้เกิดการแพร่วัฒนธรรมและกระจายข่าวสารที่ไม่เหมาะสมอย่างรวดเร็ว
      คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่ทำงานตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด การนำมาใช้ ในทางใดจึงขึ้นอยู่กับผู้ใช้ จริยธรรมการใช้คอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ ดังเช่น การใช้งานอินเทอร์เน็ตมีผู้สร้างโฮมเพจหรือสร้างข้อมูลข่าว สารในเรื่องภาพที่ไม่เหมาะสม เช่น ภาพอนาจาร หรือภาพที่ทำให้ ผู้อื่นเสียหาย นอกจากนี้ยังมีการปลอมแปลงระบบจดหมาย เพื่อส่ง จดหมายถึงผู้อื่นโดยมีเจตนากระจายข่าวที่เป็นเท็จ ซึ่งจริยธรรมการ ใช้งานเครือข่ายเป็นเรื่องที่ต้องปลูกฝังกันมาก

2. .ให้นักศึกษาแสดงความคิดเห็นการป้องกันการก่ออาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ในชีวิตประจำวัน
ตอบ  โลกปัจจุบันเป็นยุคของเทคโนโลยีสารสนเทศหรือที่เรียกว่า ยุคไอที ซึ่งเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีบทบาทและมีความสำคัญต่อชีวิตประจำวันของมนุษย์ในหลายด้าน เช่น การติดต่อสื่อสาร การซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร เป็นต้น นอกจากจะมีผลดีแล้วแต่ก็ยังเป็นช่องทางหนึ่ง ให้มิจฉาชีพเข้ามาแสวงหาประโยชน์อย่างผิดกฎหมาย หรือทำให้เกิดปัญหาการขยายตัวของอาชญากรรมข้ามชาติ รวมถึงอาชญากรรมรูปแบบใหม่ ที่มีความซ้อน ซึ่งเรียกว่า ‘’ อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ ‘’ ซึ่งในปัจจุบันถือเป็นปัญหาทางสังคมอย่างหนึ่งที่กำลังเพิ่มความรุนแรงและสร้างความเสียหายแก่สังคมทั่วไป
1. มีการวางแนวทางและเกณฑ์ในการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีอาชญากรรมคอมพิวเตอร์และช่วยให้พนักงานสอบสวน พนักงานอัยการทราบว่าพยานหลักฐานเช่นใด้ควรนำเข้าสู่การพิจารณาของศาล จะได้ลงทาผู้กระทำความผิดได้
2. จัดให้มีผู้ที่มีความรู้ความชำนาญในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อเข้าร่วมเป็นคณะทำงานในคดีอาชยากรรมคอมพิวเตอร์ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการดำเนินคดี
3. จัดตั้งหน่วยงานที่เกี่ยวกับอาชญากรรมคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะ เพื่อให้มีเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ความชำนาญเฉพาะในการปราบปราม และการดำเนินคดีอาชญากรรมคอมพิวเตอร์
4. บัญญัติกฎหมายเฉพาะเกี่ยวกับอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ รวมถึงแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายที่มีอยู่ให้ครอบคลุมการกระทำอันเป็นความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ทุกปะเภท

3.ให้นักศึกษานำเสนอข่าวที่เกี่ยวข้องกับการก่ออาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ แล้วแสดงความคิดเห็น ระบุความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
      ตอบ   มาช่า แถลงขอโทษมีภาพหลุดอื้อฉาวกับผู้ชาย เผย หลุดจากโทรศัพท์ที่ทำหาย ปัด พูดถึงผู้ชายในภาพ แต่แจ้งความเอาผิดคนปล่อยแล้ว หวังเป็นเรื่องซวยเรื่องสุดท้ายของชีวิต พร้อมวอนขอให้หยุดเผยแพร่ภาพ ด้าน หมวดเจี๊ยบ ผู้สมัครส.ส.พรรคเพื่อไทย เกาะกระแสโผล่มอบดอกไม้ให้กำลังใจ  หลังจากที่เมื่อหลายวันก่อน หนังสือพิมพ์สยามดาราได้นำเสนอข่าวภาพหลุดสาวหน้าคล้าย นักร้องชื่อดัง “มาช่า วัฒนพานิช” กำลังบรรเลงเลิฟซีนกับผู้ชายที่ระบุว่าหน้าคล้าย “นายซีริล รูฮานี (Cyril Rouhani)” อดีตโปรดิวเซอร์ชาวฝรั่งเศสคู่กรณี ที่เคยร่วมกันทำงานเพลง I’m Back และตอนนี้กำลังมีเรื่องฟ้องร้องกันอยู่ หลุดออกมาทำเอาช็อคกันทั้งวงการบันเทิงซึ่งหลังจากที่นักร้องดังมาช่าเอาแต่หลบหน้าสื่อ ไม่ยอมให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ล่าสุดในวันนี้(25 มิ.ย.) เวลา 17.00 น. เจ้าตัวก็ได้ออกมาแถลงข่าวด้วยตัวเอง กลางกองละครเรื่อง “ลิขิต เสน่หา” ออกอากาศทางช่อง 3 ที่ รพ.เกษมราษฏร์ บางแค พร้อมกับยอมรับว่าเป็นสาวที่อยู่ในภาพอื้อฉาวนั้นจริง เผย เป็นภาพที่อยู่ในโทรศัพท์ที่ทำหาย แต่ปฏิเสธที่จะพูดถึงผู้ชายในภาพ ก่อนจะเอ่ยขอโทษแฟนๆ ที่มีภาพทำนองนี้หลุดออกมา
        “ปีนี้ไม่รู้อะไรนักหนา มีเรื่องราวมากมาย เรื่องภาพที่หลุดออกมายอมรับเป็นรูปตัวเองจริง เป็นรูปที่อยู่ในโทรศัพท์ที่หายไป น่าจะหลายเดือน เป็นรูปส่วนตัว รู้สึกตกใจเหมือนกัน บางภาพไม่รู้ถ่ายไว้เมื่อไรบางรูปภาพบางภาพก็ถ่ายเล่นกับเพื่อนมันเป็นเรื่องส่วนตัวไม่สมควรเปิดเผย ก็คิดว่าที่ผ่านมาก็ถือว่าทำดีแล้ว”
        “ส่วนคนในภาพจะให้ยืนยันความสัมพันธ์ ก็ไม่อยากพูดถึง กลัวเสียรูปคดีและไม่อยากเอ่ยชื่อ แต่ช่าก็คิดว่าเป็นคนใกล้ตัวที่ปล่อยรูปคิดว่าเป็นการกลั่นแกล้งมากกว่า ถ้ารู้ตัวใครปล่อยคงดำเนินคดีเต็มที่ ก็คิดว่าคนปล่อยภาพมีวัตถุประสงค์ไม่ดี ถามว่าคนในรูปปล่อยหรือเปล่า ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของตำรวจ แต่ยังไงก็ไม่สมควร ตอนนี้ช่าแจ้งความเรียบร้อยแล้ว ที่กองบังคับการปราบปราม อาชญากรรมทางเศรษฐกิจและ เทคโนโลยี (บก.ปศท.) แถลงเสร็จก็ต้องไปให้ปากคำค่ะ”
       “เรื่องรูปที่แพร่ออกไปมันเป็นความผิด และสามารถดำเนินคดีได้ ช่าขอร้องอย่าเผยแพร่รูปออกไป มีคนกลั่นแกล้งก็ต้องต่อสู้กันไป กับคนที่เชื่อว่าปล่อยรูปตั้งแต่มีคดีความ ก็ไม่ได้ติดต่อกันไม่ได้พูดคุย คงปล่อยให้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนเรื่องคนนั้นที่มีคดีติดตัวที่ต่างประเทศ ก็คิดว่าคนดีๆ ก็คงไม่ทำเรื่องแบบนั้น อยากให้เป็นคดีตัวอย่าง บางครั้งเราคิดกับเขาในแง่ดีเกินไป”
       สรุปข่าว : นักร้องชื่อดัง “มาช่า วัฒนพานิช” แถลงข่าวขอโทษหลังจากมีภาพหลุดอื้อฉาวกับผู้ชาย เผยว่าภาพดังกล่าวหลุดมาจากโทรศัพท์ที่ทำหายแต่ได้แจ้งความเอาผิดคนปล่อยดังกล่าวแล้ว

         พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐
หากเกิดเหตุการณ์ในกรณีศึกษาดังกล่าวจะมีความผิดตามกฎหมายดังนี้
มาตรา ๑๔ ผู้ใดกระทําความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
(๑) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
(๒) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิด ความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน
(๓) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง แห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา
(๔) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้
(๕) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (๑) (๒) (๓) หรือ(๔)
           มาตรา ๑๕  ผู้ให้บริการผู้ใดจงใจสนับสนุนหรือยินยอมให้มี การกระทําความผิดตามมาตรา ๑๔ ในระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในความควบคุมของตน ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้กระทําความผิดตาม มาตรา ๑๔มาตรา ๑๖ ผู้ใดนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูล คอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด ทั้งนี้โดยประการที่น่าจะทําให้ผู้อื่นนั้น เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับถ้าการกระทําตามวรรคหนึ่ง เป็นการนําเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยสุจริต ผู้กระทําไม่มีความผิดความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้ถ้าผู้เสียหายในความผิดตามวรรคหนึ่งตายเสียก่อนร้องทุกข์ ให้บิดา มารดา คู่สมรส หรือบุตรของผู้เสียหายร้องทุกข์ได้ และให้ถือว่าเป็นผู้เสียหาย

4. ให้อธิบายแนวโน้มรูปแบบการโจมตีระบบเครือข่ายในอนาคต
          ตอบ  การโจมตีเครือข่าย
แม้ว่าระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ จะเป็นเทคโนโลยีที่น่าอัศจรรย์ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงอยู่มากถ้าไม่มีการควบคุมหรือป้องกันที่ดี การโจมตีหรือการบุกรุกเครือข่าย หมายถึง ความพยายามที่จะเข้าใช้ระบบ (Access Attack) การแก้ไขข้อมูลหรือระบบ (Modification Attack) การทำให้ระบบไม่สามารถใช้การได้ (Deny of Service Attack) และการทำให้ข้อมูลเป็นเท็จ (Repudiation Attack) ซึ่งจะกระทำโดยผู้ประสงค์ร้าย ผู้ที่ไม่มีสิทธิ์ หรืออาจเกิดจากความไม่ได้ตั้งใจของผู้ใช้เองต่อไปนี้เป็นรูปแบบต่าง ๆ ที่ผู้ไม่ประสงค์ดีพยายามที่จะบุกรุกเครือข่ายเพื่อลักลอบข้อมูลที่สำคัญหรือเข้าใช้ระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต
1 แพ็กเก็ตสนิฟเฟอร์
ข้อมูลที่คอมพิวเตอร์ส่งผ่านเครือข่ายนั้นจะถูกแบ่งย่อยเป็นก้อนเล็ก ๆ ที่เรียกว่า “แพ็กเก็ต (Packet)” แอพพลิเคชันหลายชนิดจะส่งข้อมูลโดยไม่เข้ารหัส (Encryption) หรือในรูปแบบเคลียร์เท็กซ์ (Clear Text) ดังนั้น ข้อมูลอาจจะถูกคัดลอกและโพรเซสโดยแอพพลิเคชันอื่นก็ได้
2 ไอพีสปูฟิง
ไอพีสปูฟิง (IP Spoonfing) หมายถึง การที่ผู้บุกรุกอยู่นอกเครือข่ายแล้วแกล้งทำเป็นว่าเป็นคอมพิวเตอร์ที่เชื่อถือได้ (Trusted) โดยอาจจะใช้ไอพีแอดเดรสเหมือนกับที่ใช้ในเครือข่าย หรืออาจจะใช้ไอพีแอดเดรสข้างนอกที่เครือข่ายเชื่อว่าเป็นคอมพิวเตอร์ที่เชื่อถือได้ หรืออนุญาตให้เข้าใช้ทรัพยากรในเครือข่ายได้ โดยปกติแล้วการโจมตีแบบไอพีสปูฟิงเป็นการเปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มข้อมูลเข้าไปในแพ็กเก็ตที่รับส่งระหว่างไคลเอนท์และเซิร์ฟเวอร์ หรือคอมพิวเตอร์ที่สื่อสารกันในเครือข่าย การที่จะทำอย่างนี้ได้ผู้บุกรุกจะต้องปรับเราท์ติ้งเทเบิ้ลของเราท์เตอร์เพื่อให้ส่งแพ็กเก็ตไปยังเครื่องของผู้บุกรุก หรืออีกวิธีหนึ่งคือการที่ผู้บุกรุกสามารถแก้ไขให้แอพพลิเคชันส่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการเข้าถึงแอพพลิเคชันนั้นผ่านทางอีเมลล์ หลังจากนั้นผู้บุกรุกก็สามารถเข้าใช้แอพพลิเคชันได้โดยใช้ข้อมูลดังกล่าว
3 การโจมตีรหัสผ่าน
การโจมตีรหัสผ่าน (Password Attacks) หมายถึงการโจมตีที่ผู้บุกรุกพยายามเดารหัสผ่านของผู้ใช้คนใดคนหนึ่ง ซึ่งวิธีการเดานั้นก็มีหลายวิธี เช่น บรู๊ทฟอร์ช (Brute-Force) ,โทรจันฮอร์ส (Trojan Horse) , ไอพีสปูฟิง , แพ็กเก็ตสนิฟเฟอร์ เป็นต้น การเดาแบบบรู๊ทฟอร์ช หมายถึง การลองผิดลองถูกรหัสผ่านเรื่อย ๆ จนกว่าจะถูก บ่อยครั้งที่การโจมตีแบบบรู๊ทฟอร์ชใช้การพยายามล็อกอินเข้าใช้รีซอร์สของเครือข่าย โดยถ้าทำสำเร็จผู้บุกรุกก็จะมีสิทธิ์เหมือนกับเจ้าของแอ็คเคาท์นั้น ๆ ถ้าหากแอ็คเคาท์นี้มีสิทธิ์เพียงพอผู้บุกรุกอาจสร้างแอ็คเคาท์ใหม่เพื่อเป็นประตูหลัง (Back Door) และใช้สำหรับการเข้าระบบในอนาคต
4 การโจมตีแบบ Man-in-the-Middle
การโจมตีแบบ Man-in-the-Middle นั้นผู้โจมตีต้องสามารถเข้าถึงแพ็กเก็ตที่ส่งระหว่างเครือข่ายได้ เช่น ผู้โจมตีอาจอยู่ที่ ISP ซึ่งสามารถตรวจจับแพ็กเก็ตที่รับส่งระหว่างเครือข่ายภายในและเครือข่ายอื่น ๆ โดยผ่าน ISP การโจมตีนี้จะใช้ แพ็กเก็ตสนิฟเฟอร์เป็นเครื่องมือเพื่อขโมยข้อมูล หรือใช้เซสซั่นเพื่อแอ็กเซสเครือข่ายภายใน หรือวิเคราะห์การจราจรของเครือข่ายหรือผู้ใช้
5 การโจมตีแบบ DOS
การโจมตีแบบดีไนล์ออฟเซอร์วิส หรือ DOS (Denial-of Service) หมายถึง การโจมตีเซิร์ฟเวอร์โดยการทำให้เซิร์ฟเวอร์นั้นไม่สามารถให้บริการได้ ซึ่งปกติจะทำโดยการใช้รีซอร์สของเซิร์ฟเวอร์จนหมด หรือถึงขีดจำกัดของเซิร์ฟเวอร์ ตัวอย่างเช่น เว็บเซิร์ฟเวอร์ และเอฟทีพีเซิร์ฟเวอร์ การโจมตีจะทำได้โดยการเปิดการเชื่อมต่อ (Connection) กับเซิร์ฟเวอร์จนถึงขีดจำกัดของเซิร์ฟเวอร์ ทำให้ผู้ใช้คนอื่น ๆ ไม่สามารถเข้ามาใช้บริการได้
6 โทรจันฮอร์ส เวิร์ม และไวรัส
คำว่า “โทรจันฮอร์ส (Trojan Horse)” นี้เป็นคำที่มาจากสงครามโทรจัน ระหว่างทรอย (Troy) และกรีก (Greek) ซึ่งเปรียบถึงม้าโครงไม้ที่ชาวกรีกสร้างทิ้งไว้แล้วซ่อนทหารไว้ข้างในแล้วถอนทัพกลับ พอชาวโทรจันออกมาดูเห็นม้าโครงไม้ทิ้งไว้ และคิดว่าเป็นของขวัญที่กรีซทิ้งไว้ให้ จึงนำกลับเข้าเมืองไปด้วย พอตกดึกทหารกรีกที่ซ่อนอยู่ในม้าโครงไม้ก็ออกมาและเปิดประตูให้กับทหารกรีกเข้าไปทำลายเมืองทรอย สำหรับในความหมายของคอมพิวเตอร์แล้ว โทรจันฮอร์ส หมายถึงดปรแกรมที่ทำลายระบบคอมพิวเตอร์โดยแฝงมากับโปรแกรมอื่น ๆ เช่น เกม สกรีนเวฟเวอร์ เป็นต้น

วันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

สรุปบทที่ 5 , แบบฝึกหัดบทที่ 5

สรุปบทที่ 5 , แบบฝึกหัดบทที่ 5





เครือข่ายสังคมออนไลน์
                
                หมายถึง สังคมออนไลน์ที่มีการเชื่อมโยงกันเพื่อสร้างเครือข่ายในการตอบสนองความต้องการทางสังคมที่มุ่งเน้นในการสร้างและสะท้อนให้เห็นถึงเครือข่าย หรือความสัมพันธ์ทางสังคม ในกลุ่มคนที่มีความสนใจหรือมีกิจกรรมร่วมกัน บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์จะให้บริการผ่านหน้าเว็บ และให้มีการตอบโต้กันระหว่างผู้ใช้งานผ่านอินเทอร์เน็ต

องค์ประกอบของเครือข่ายสังคมออนไลน์ 
              
                 - การมีสมาชิกของเครือข่าย
                 - การมีจุดมุ่งหมายร่วมกัน 
                 - การปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิกในเครือข่าย 
                 - การสื่อสารภายในเครือข่าย 
                 - การมีปฏิสัมพันธ์เชิงแลกเปลี่ยน
                 - การให้บริการสมาชิกเครือข่ายสังคมออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ

ความเป็นมาของเครือข่ายสังคมออนไลน์

               เริ่มจากการพัฒนาทางเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตจากเว็บ 1.0 (เว็บเนื้อหา) มาสู่เว็บ 2.0 (เว็บเชิงสังคม) ซึ่งจุดเด่นของเว็บ 2.0 คือ การที่ผู้ใช้สามารถสร้างเนื้อหาบนอินเทอร์เน็ตได้เอง โดยไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นทีมงานหรือผู้ดูแลเว็บไซต์

ประเภทของเครือข่ายสังคมออนไลน์

               - สร้างและประกาศตัวตน (Identity Network)
               - สร้างและประกาศผลงาน (Creative Network)
               - ความชอบในสิ่งเดียวกัน (Passion Network) 
               - เวทีทำงานร่วมกัน (Collaboration Network)
               - ประสบการณ์เสมือนจริง (Virtual Reality)
               - เครือข่ายเพื่อการประกอบอาชีพ (Professional Network) 
               - เครือข่ายที่เชื่อมต่อกันระหว่างผู้ใช้ (Peer to Peer : P2P)

ผู้ให้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์

              1. สร้างและประกาศตัวตน (Identity Network) 
                    1.1 Facebook 
                    1.2 Twitter 
                    1.3 Bloggang 
              2. สร้างและประกาศผลงาน (Creative Network) 
            2.1  YouTube
                    2.2 Flickr
              3. ความชอบหรือคลั่งไคล้ในสิ่งเดียวกัน (Passion Network) เช่น
              3.1 Pantip 
                    3.2 Digg
                    3.3 Ning
              4. เวทีทำงานร่วมกัน (Collaboration Network) 
            4.1 Wikipedia1.
                    4.2 Google Earth
              5. ประสบการณ์เสมือนจริง (Virtual Reality) 
                    5.1 Game
              6. เครือข่ายเพื่อการประกอบอาชีพ (Professional Network)  
               6.1 Linked in
              7. เครือข่ายที่เชื่อมต่อกันระหว่างผู้ใช้ (Peer to Peer : P2P)           
            7.1 Skype
                    7.2 BitTorrent

กลุ่มผู้ใช้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์  แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มดังนี้
             
             - กลุ่ม  Generation Z กลุ่มผู้มีอายุ 6-10 ปี
             - กลุ่ม Generation  Y และ Generation D (Digital) ผู้มีอายุระหว่าง 15-30 ปี เป็นกลุ่มวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา และกลุ่มวัยทำงาน
             - กลุ่ม Generation  X ผู้มีอายุ 30-45 ปี เป็นกลุ่มคนวัยทำงาน นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ นักการเมือง นักสื่อสารมวลชน เป็นกลุ่มที่รับเทคโนโลยีแบบผู้ใช้เป็นส่วนมาก

เครือข่ายสังคมออนไลน์กับการประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
          
           1. ด้านการสื่อสาร (Communication)  
           2. ด้านการศึกษา (Education) 
           3. ด้านการตลาด (Marketing) 
           4. ด้านบันเทิง (Entertainment)  
           5. ด้านสื่อสารการเมือง (Communication Political)  

ผลกระทบของเครือข่ายสังคมออนไลน์
           ผลกระทบเชิงบวก
                     1. เป็นสื่อในการนำเสนอผลงานของตัวเอง 
                     2. เป็นสื่อที่ใช้ในการแบ่งปันข้อมูล รูปภาพ ความรู้ให้กับผู้อื่น 
                     3. เป็นเวทีแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ
                     4. เป็นเครือข่ายกระชับมิตร สร้างความสัมพันธ์ที่ดี
                     5. เป็นเครื่องมือในการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพ
                     6. เป็นเครื่องมือช่วยในการพัฒนาชุมชน  
                     7. ใช้เป็นสื่อในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ หรือบริการลูกค้า
                     8. ประหยัดค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสาร
           ผลกระทบเชิงลบ
                     1. เป็นช่องทางในการถูกละเมิดลิขสิทธิ์ ขโมยผลงาน 
                     2. หากผู้ใช้หมกมุ่นกับการเข้าร่วมเครือข่ายสังคมออนไลน์มากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ
                     3. เป็นช่องทางที่สามารถวิพากษ์วิจารณ์กระแสสังคมในเรื่องเชิงลบ 
                     4. ภัยคุกคามจากเครือข่ายสังคมออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ


สรุป 
                  เครือข่ายสังคมออนไลน์นับได้ว่าเป็นช่องทางหนึ่งในการติดต่อสื่อสาร แสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยนข้อมูล และทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่มีการเชื่อมโยงกันเพื่อสร้างเครือข่ายในการตอบสนอง ความต้องการทางสังคมที่มุ้งเน้นในการสร้างความสัมพันธ์ทางสังคมมนุษย์ โดยการเข้าใช้บริการผ่านหน้าเว็บและโต้ตอบกันระหว่างผู้อื่นผ่านโลกออนไลน์
                  เราในฐานะผู้ใช้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ควรที่จะต้องทำความเข้าใจแนวคิดพื้นฐานและความหมายของเครือข่ายสังคมออนไลน์ อีกทั้งรู้จักเลือกใช้และเข้าถึงเว็บผู้ให้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์แต่ละประเภทให้ตรงกับ ความต้องการของตนเอง ควรรู้จักที่จะประยุกต์ใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ให้เข้าชีวิตประจำวันของตนเอง 
                   ควรศึกษาผลกระทบของการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ทั้งในเชิงบวกและเชิงลบ  เพื่อให้ตนเองได้รับรู้และทราบข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ จากการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ และสามารถนำมาปรับใช้เป็นกรณีศึกษาให้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับตนเองและสังคม เครือข่ายสังคมออนไลน์ถือได้ว่าเป็นส่วนประกอบส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์ยุคเทคโนโลยี
                    ดังนั้นเราในฐานะผู้ใช้จักต้องรู้ให้เท่าทันเครือข่ายสังคมออนไลน์ และควรที่จะต้องรู้จักหน้าที่ของตนเองในการอยู่ร่วมกับผู่อื่นในสังคม หากเรารู้จักหน้าที่และปฏิบัติตนได้ตามหน้าที่แล้วนั้นสังคมที่เราอยู่ย่อมเป็นสังคมที่สงบสุข

กิจกรรมท้ายบทที่ 5

1.  นักศึกษาจงอธิบายความหมายของเครือข่ายสังคมออนไลน์ตามความเข้าใจของนักศึกษา
     ตอบ  หมายถึง สังคมออนไลน์ที่มีการเชื่อมโยงกันเพื่อสร้างเครือข่ายในการตอบสนองความต้องการทางสังคมที่มุ่งเน้นในการสร้างและสะท้อนให้เห็นถึงเครือข่าย หรือความสัมพันธ์ทางสังคม ในกลุ่มคนที่มีความสนใจหรือมีกิจกรรมร่วมกัน บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์จะให้บริการผ่านหน้าเว็บ และให้มีการตอบโต้กันระหว่างผู้ใช้งานผ่านอินเทอร์เน็ต

2.  นักศึกษาจงบอกองค์ประกอบของเครือข่ายสังคมออนไลน์มีอะไรบ้าง
     ตอบ   2.1  การมีสมาชิกของเครือข่าย
               2.2  การมีจุดมุ่งหมายร่วมกัน
               2.3  การปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิกในเครือข่าย
               2.4  การสื่อสารภายในเครือข่าย
               2.5  การมีปฏิสัมพันธ์เชิงแลกเปลี่ยน
               2.6  การให้บริการสมาชิกเครือข่ายสังคมออนไลน์ในรูปแบบต่าง ๆ

3.  นักศึกษาจงบอกประเภทของเครือข่ายสังคมออนไลน์มีกี่ประเภท  อะไรบ้าง
     ตอบ   3.1 สร้างและประกาศตัวตน (Identity Network) เครือข่ายสังคมออนไลน์ประเภทนี้ใช้สำหรับให้ผู้เข้าใช้งานได้มีพื้นที่ในการสร้างตัวตนขึ้นมาบนเว็บไซต์ และสามารถที่จะเผยแพร่เรื่องราวของตนผ่านทางอินเทอร์เน็ต โดยลักษณะของ การเผยแพร่อาจจะเป็นรูปภาพ วิดีโอ การเขียนข้อความลงในบล็อก อีกทั้งยังเป็นเว็บที่เน้นการหาเพื่อนใหม่ หรือการค้นหาเพื่อนเก่าที่ขาดการติดต่อ               การเขียนบทความได้อย่างเสรี ซึ่งอาจจะถูกนำมาใช้ได้ใน 2 รูปแบบ ได้แก่
                        3.1.1 Blog บล็อก เป็นชื่อเรียกสั้นๆ ของ Weblog ซึ่งมาจากคำว่า “Web” รวมกับคำว่า “Log” ที่เป็นเสมือนบันทึกหรือรายละเอียดข้อมูลที่เก็บไว้ ดังนั้นบล็อกจึงเป็นโปรแกรมประยุกต์บนเว็บที่ใช้เก็บบันทึกเรื่องราว หรือเนื้อหาที่เขียนไว้โดยเจ้าของเขียนแสดงความรู้สึกนึกคิดต่างๆ โดยทั่วไปจะมีผู้ที่ทำหน้าที่หลักที่เรียกว่า “Blogger” เขียนบันทึกหรือเล่าเหตุการณ์ที่อยากให้คนอ่านได้รับรู้ หรือเป็นการเสนอมุมมองและแนวความคิดของตนเองใส่เข้าไปในบล็อกนั้น
                        3.1.2 ไมโครบล็อก (Micro Blog) เครือข่ายสังคมออนไลน์ประเภทนี้มีลักษณะเด่นโดยการให้ผู้ใช้โพสต์ข้อความ
จำนวนสั้นๆ ผ่านเว็บผู้ให้บริการ และสามารถกำหนดให้ส่งข้อความนั้นๆ ไปยังโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ เช่น Twitter

            3.2 สร้างและประกาศผลงาน (Creative Network) เครือข่ายสังคมออนไลน์ประเภทนี้ เป็นสังคมสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการแสดงออกและนำเสนอผลงานของตัวเอง สามารถแสดงผลงานได้จากทั่วทุกมุมโลก จึงมีเว็บไซต์ที่ให้บริการพื้นที่เสมือนเป็นแกลเลอรี่ (Gallery) ที่ใช้จัดโชว์ผลงานของตัวเองไม่ว่าจะเป็นวิดีโอ รูปภาพ เพลง อีกทั้งยังมีจุดประสงค์หลักเพื่อแชร์เนื้อหาระหว่างผู้ใช้เว็บที่ใช้ฝากหรือแบ่งปัน โดยใช้วิธีเดียวกันแบบเว็บฝากภาพ แต่เว็บนี้เน้นเฉพาะไฟล์ที่เป็นมัลติมีเดีย ซึ่งผู้ให้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ ประเภทนี้ ได้แก่ YouTube, Flickr, Multiply, Photobucket และ Slideshare เป็นต้น

            3.3 ความชอบในสิ่งเดียวกัน (Passion Network) เป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ทำหน้าที่เก็บในสิ่งที่ชอบไว้บนเครือข่าย เป็นการสร้าง ที่คั่นหนังสือออนไลน์ (Online Bookmarking) มีแนวคิดเพื่อให้ผู้ใช้สามารถเก็บหน้าเว็บเพจที่คั่นไว้ในเครื่องคนเดียวก็นำมาเก็บไว้บนเว็บไซต์ได้ เพื่อที่จะได้เป็นการแบ่งปันให้กับคนที่มีความชอบในเรื่องเดียวกัน สามารถใช้เป็นแหล่งอ้างอิงในการเข้าไปหาข้อมูลได้ และนอกจากนี้ยังสามารถโหวตเพื่อให้คะแนนกับที่คั่นหนังสือออนไลน์ที่ผู้ใช้คิดว่ามีประโยชน์และเป็นที่นิยม ซึ่งผู้ให้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ ได้แก่ Digg, Zickr, Ning, del.icio.us, Catchh และ Reddit เป็นต้น

             3.4 เวทีทำงานร่วมกัน (Collaboration Network) เป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ต้องการความคิด ความรู้ และการต่อยอดจากผู้ใช้ที่เป็นผู้มีความรู้ เพื่อให้ความรู้ที่ได้ออกมามีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องและเกิดการพัฒนาในที่สุด ซึ่งหากลองมองจากแรงจูงใจที่เกิดขึ้นแล้ว คนที่เข้ามาในสังคมนี้มักจะเป็นคนที่มีความภูมิใจที่ได้เผยแพร่สิ่งที่ตนเองรู้ และทำให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม เพื่อรวบรวมข้อมูลความรู้ในเรื่องต่างๆ ในลักษณะเนื้อหา ทั้งวิชาการ ภูมิศาสตร์ประวัติศาสตร์ สินค้า หรือบริการ โดยส่วนใหญ่มักเป็นนักวิชาการหรือผู้เชี่ยวชาญ ผู้ให้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ในลักษณะเวทีทำงานร่วมกัน ในลักษณะเวทีทำงานร่วมกัน เช่น Wikipedia, Google earth และ Google Maps เป็นต้น

             3.5 ประสบการณ์เสมือนจริง (Virtual Reality) เครือข่ายสังคมออนไลน์ประเภทนี้มีลักษณะเป็นเกมออนไลน์ (Online games) ซึ่งเป็นเว็บที่นิยมมากเพราะเป็นแหล่งรวบรวมเกมไว้มากมาย มีลักษณะเป็นวิดีโอเกมที่ผู้ใช้สามารถเล่นบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เกมออนไลน์นี้มีลักษณะเป็นเกม 3 มิติที่ผู้ใช้นำเสนอตัวตนตามบทบาทในเกม ผู้เล่นสามารถติดต่อปฏิสัมพันธ์กับผู้เล่นคนอื่นๆ ได้เสมือนอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง สร้างความรู้สึกสนุกเหมือนได้มีสังคมของผู้เล่นที่ชอบในแบบเดียวกัน อีกทั้งยังมีกราฟิกที่สวยงามดึงดูดความสนใจและมีกิจกรรมต่างๆ ให้ผู้เล่นรู้สึกบันเทิง เช่น Second Life, Audition, Ragnarok, Pangya และ World of Warcraft เป็นต้น

             3.6 เครือข่ายเพื่อการประกอบอาชีพ (Professional Network) เป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์เพื่อการงาน โดยจะเป็นการนำประโยชน์จากเครือข่ายสังคมออนไลน์มาใช้ในการเผยแพร่ประวัติผลงานของตนเอง และสร้างเครือข่ายเข้ากับผู้อื่น นอกจากนี้บริษัทที่ต้องการคนมาร่วมงาน สามารถเข้ามาหาจากประวัติของผู้ใช้ที่อยู่ในเครือข่ายสังคมออนไลน์นี้ได้ ผู้ให้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ประเภทนี้ได้แก่ Linkedin เป็นต้น

             3.7  เครือข่ายที่เชื่อมต่อกันระหว่างผู้ใช้ (Peer to Peer : P2P) เป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์แห่งการเชื่อมต่อกันระหว่างเครื่องผู้ใช้ด้วยกันเองโดยตรง จึงทำให้เกิดการสื่อสารหรือแบ่งปันข้อมูลต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว และตรงถึงผู้ใช้ทันที ซึ่งผู้ให้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ ประเภทนี้ ได้แก่ Skype และ BitTorrent เป็นต้น

4.  นักศึกษาต้องการสร้างและประกาศตัวตนควรเลือกใช้ผู้ให้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ใดบ้าง
     ตอบ  Facebook , Twitter , Bloggang

วันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

สรุปข่าว ครั้งที่ 2

เรื่องลับลวงพรางในบริษัท Facebook จากหนังสือ Chaos Monkeys


สร้างกระแสได้พอสมควรสำหรับการเปิดตัวหนังสือ Chaos Monkeys: Obscene Fortune and Random Failure in Silicon Valley เขียนโดย Antonia Garcia Martinez อดีตพนักงาน Facebook เนื้อหาออกแนวเปิดเผยสิ่งที่ไม่มีใครรู้จากบริษัท Facebook และตัว  เอง
และนี่คือ 6 สิ่งในหนังสือที่จะทำให้คนอ่านประหลาดใจเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมการทำงานใน Facebook ขอย้ำแรงๆว่า เป็นเนื้อหาที่ Martinez เขียนนะ ไม่เกี่ยวกับเรา (ฮา)

1. Mark Zuckerberg ชอบใช้ประโยคคลาสสิกเกี่ยวกับสงครามในการปลุกใจพนักงาน

ตอนที่ Google เปิดตัว Google+ มาแข่งกับ Facebook นั้น Zuckerberg พูดปลุกใจเชิงว่าจะต้องทำลายคู่แข่งให้สิ้นซาก ใช้ประโยคคลาสสิกในสงครามโรมัน และใช้น้ำเสียงแบบพร้อมรบ พร้อมจะเข้าสู่สงคราม และพอพูดจบ พนักงานที่ยืนฟังก็เดินออกไปด้วยความรู้สึกพร้อมจะบุกโปแลนด์

2. Facebook มีกระทรวงโฆษณาชวนเชื่อ

ในออฟฟิศจะมีส่วนงาน Analog Research Laboratory ที่ Martinez ผู้เขียนหนังสือบอกว่ามีบรรยากาศคล้ายกระทรวงโฆษณาชวนเชื่อ มีโปสเตอร์รูปโล่ห์ หมวกรบในสงครามยุคโรมัน Martinez ยังระบุอีกว่า ไม่มีการเผยรายละเอียดงบประมาณในการจัดตั้งส่วนงานนี้

3. มีการสอดแนมพนักงาน

Martinez บอกว่ามีหน่วยงานสอดส่องพนักงานชื่อว่า The Sec และยังบอกอีกว่า เขากับพนักงานใหม่จะถูกเตือน ห้ามเข้าไปดูโปรไฟล์ของคนอื่นโดยไม่มีเหตุผลที่เป็นทางการ ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะถูกไล่ออก

4. ห้ามพนักงานผู้หญิงแต่งตัววับๆ แวมๆ

Martinez เล่าว่าฝ่ายบุคคลจะเรียกพนักงานผู้หญิงไปตักเตือนเป็นการส่วนตัวเรื่องการ แต่งตัวที่ทำให้พนักงานผู้ชายเสียสมาธิ หรือดึงความสนใจจากผู้ชาย

5. มีการฉลองครบรอบการทำงานที่ Facebook แต่ตอนออกมาเหมือนตายทั้งเป็น

ในวันครบรอบการทำงาน หรือวัน Faceversary (Facebook + anniversary) จะมีบรรยากาศแสดงความยินดี มีลูกโป่ง มีดอกไม้ แต่ตอนลาออก บัญชีจะถูกขับออกจากกลุ่มภายใน ให้ความรู้สึกเหมือนถูกไล่ออก

6. บอสของบริษัทไอที จะต้องขอตัวปรินท์ presentation เป็นกระดาษทุกครั้ง

บอสทั้งสองคือ Zuckerberg และ Sheryl Sandberg เกลียดการจ้องพรีเซนเทชั่นผ่านจอ พวกเขาจะสั่งให้พนักงานปรินท์ออกมาให้ทุกครั้ง Martinez รับผิดชอบส่วนงานโฆษณา เขาพบว่า Zuckerberg ไม่ได้ให้ความสนใจเรื่องงานโฆษณาสักเท่าไร ในการประชุมเรื่องนี้เขาปรากฏตัวครั้งเดียวเท่านั้น

สรุปบทที่ 4 , คำถามท้ายบทที่ 4




สรุป
ความหมายของอินเทอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ต (Internet) มาจากคำว่า Interconnection Network หมายถึง "เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกันทั่วโลก โดยใช้โปรโตคอล (Protocol ) เป็นมาตรฐานในการติดต่อสื่อสาร

เครือข่ายคอมพิวเตอร์ : โปรโตคอล คือ
ชุดของกฎหรือข้อตกลงในการแลกเปลี่ยนข้อมูลผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เพื่อให้คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องสามารถรับ-ส่งข้อมูลระหว่างกันได้ถูกต้อง

-IPX/SPX เป็นโปโตคอลที่ใช้ในเครือข่ายที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Netware
- NetBIOS และ NetBEUI เป็นโปรโตคอลที่บริษัทไอบีเอ็ม พัฒนาร่วมกับบริษัท ไมโครซอฟต์ ใช้ในเครือข่ายที่ใช้ระบบปฏิบัติการWindows เวอร์ชั่นต่าง ๆ
-TCP/IP ป็นโปรโตคอลที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในระบบอินเทอร์เน็ตและมีแนวโน้มว่าจะถูกนำมาใช้แทนโปรโตคอลอื่น ๆ ในอนาคต

ประวัติอินเตอร์เน็ต
อินเตอร์เน็ตพัฒนาขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1969 ในยุคสงครามเย็นระหว่าง สหรัฐกับสหภาพโซเวียต ที่แข่งขันกันพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ โซเวียตส่งดาวเทียมดวงแรกสู่ห้วงอวกาศอเมริกาจึงเริ่มพัฒนาเครือข่ายสื่อสารทางทหารชื่อ ARPANET ขึ้น โดยออกแบบระบบให้เหมือนร่างแหที่กระจายไปทั่ว ให้มั่นใจว่าหากถูกถล่มด้วยระเบิดนิวเคลียร์ เครือข่ายก็จะไม่ถูกตัดขาด ยังมีทางส่งข้อมูลอ้อมไปได้ เมื่อภาวะสงครามคลายลงเครือข่ายอินเตอร์เน็ตไม่มีความจำเป็นที่จะใช้เฉพาะเครือข่ายทางการทหารอีกต่อไป เครือข่ายจึงขยายตัวออกไปสู่ธุรกิจด้านต่างๆทั่วโลก มีการเชื่อมต่อนับพันล้านเครื่องในเวลาที่รวดเร็ว ผู้ให้บริการเชื่อมต่อจะเรียกว่า ISP (Internet Service Povider) คือเก็บค่าบริการต่างกันขึ้นอยู่กับการเชื่อมต่อ ความเร็ว เวลาการใช้งาน

อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย
ปี พ.ศ. 2529 อาจารย์กาญจนา กาญจนสุต จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซีย (AIT) ร่วมกับ
อาจารย์โทโมโนริ คิมูระ จากสถาบันเดียวกันร่วมสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ โดยอาศัย โมเด็ม NEC ความเร็ว 2400 Baud ,เครื่องคอมพิวเตอร์พีซี NEC,สายโทรศัพท์ทองแดง
baud ตั้งชื่อตามวิศวกรและผู้ประดิษฐ์โทรเลขชาวฝรั่งเศส ชื่อว่า ยังมอริส - อีมิล โบด็อท เดิมใช้วัดความเร็วของการส่งโทรเลข ปัจจุบันใช้วัดความเร็วของการถ่ายทอดสัญญาณของโมเด็ม (modem) ต่อมาเปลี่ยนไปใช้บริการไทยแพค ผ่านการหมุนโทรศัพท์ไปยังการสื่อสารแห่งประเทศไทย ทำการรับส่งอีเมล์กับมหาวิทยาลัยโตเกียวมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น และบริษัท UUNET ที่เวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา
นับได้ว่า อาจารย์กาญจนา กาญจนสุต เป็นผู้เริ่มใช้จดหมายอิเล็กทรอนิกส์รายแรกของประเทศไทย
ในปีพ.ศ. 2534 อาจารย์ทวีศักดิ์ กออนันตกูล อาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้จัดตั้งศูนย์อีเมล์แห่งใหม่ ใช้โมเด็ม 14.4 Kbps (ซึ่งเร็วที่สุดในประเทศไทยในขณะนั้น) ทำหน้าที่แลกเปลี่ยนข้อมูลกับเครื่อง Munnari ของออสเตรเลีย กับมหาวิทยาลัยต่างๆ ในประเทศผ่านโปรแกรม UUCP

การให้บริการอินเตอร์เน็ตในประเทศไทย
ได้เริ่มต้นขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อ เดือน มีนาคม พ.ศ. 2538 โดยความร่วมมือของรัฐวิสาหกิจ 3 แห่ง เป็นบริษัทถือหุ้นระหว่างการสื่อสารแห่งประเทศไทย องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยให้บริการในนาม บริษัท อินเทอร์เน็ต ประเทศไทย (Internet Thailand)

การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ยุคเริ่มแรกจนถึงปัจจุบันใช้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านสาย (Fixed Line Access) โดยเริ่มตั้งแต่ผ่านสายโทรศัพท์พื้นฐานพัฒนาเรื่อยมาจนเป็นใยแก้วนำแสงในปัจจุบัน อินเทอร์เน็ต ในอดีตการเข้าถึงโครงข่ายใช้คอมพิวเตอร์ต่อผ่านโทรศัพท์บ้าน ผ่านโมเด็มเป็นอุปกรณ์โทรฯเรียกเข้าศูนย์ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (Internet Service Provider: ISP) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า Dial Up คิดค่าบริการเป็นชั่วโมง โดยใช้การใช้ โมเด็มโทรฯเรียกเข้าศูนย์บริการมีอัตราการส่งข้อมูลที่ 28.8 kbps
การเชื่อมต่อแบบหมุนโทรศัพท์ ( Dial up connection )
เป็นวิธีเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยใช้สายโทรศัพท์ และติดต่อผ่านโมเด็ม(Modem) เพื่อติดต่อกับคอมพิวเตอร์ที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตซึ่งโดยทั่วไปได้แก่ ISP (Internet Service Provider)

ส่วนประกอบของการเชื่อมต่อ
1. คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ( PC: Personnel computer)
2. หมายเลขโทรศัพท์พื้นฐาน
3. โมเด็ม ( Modem )
4. ชั่วโมงอินเทอร์เน็ตจากผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต (ISP)

โมเด็ม (Modulator Demodulator : Modem)
มีหน้าที่แปลงสัญญาณข้อมูล จากดิจิทัลให้เป็นอนาลอกและส่งผ่านสายโทรศัพท์ไปยังปลายทาง ด้วยความเร็ว 56 Kbps ค่าใช้จ่ายมีเพียงค่าโทรศัพท์ครั้งละ 3 บาทและค่าบริการอินเทอร์เน็ตชั่วโมงละประมาณ 3-12 บาท
ไอเอสพี ( Internet Service Provider : ISP ) บริษัทที่ให้บริการทางด้านอินเทอร์เน็ต เป็นเสมือนตัวแทนของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อเข้าถึงแหล่งข้อมูลต่าง ๆ
DSL ย่อมาจาก Digital Subscriber Line
คือเทคโนโลยีโมเด็ม ที่ทำให้คู่สายทองแดงธรรมดา ให้กลายเป็นสื่อสัญญาณดิจิตอล ความเร็วสูง โดยใช้เทคนิคการเข้ารหัสสัญญาณข้อมูล (Modulation) ในย่านความถี่ที่สูงกว่าการใช้งานโทรศัพท์โดยทั่วไป
ทำให้เราสามารถส่งข้อมูล ในขณะเดียวกับการใช้งานโทรศัพท์ได้
ADSL ย่อมาจาก Asymmetric Digital Subscriber Line
คือ เทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูลความเร็วสูง บนข่ายสายทองแดง มีลักษณะสำคัญคืออัตราการเร็วในการรับข้อมูล (Downstream) และอัตราการเร็วในการส่งข้อมูล (Upstream) ไม่เท่ากัน โดยมีอัตรารับข้อมูลสูงสุดที่ 8 Mbps. และอัตราการส่งข้อมูลสูงสุดที่ 1Mbps โดยระดับความเร็วในการ รับ-ส่ง ข้อมูลจะขึ้นอยู่กับ ระยะทาง และคุณภาพของคู่สายนั้นๆ
VDSL ย่อมาจาก Very High Speed Digital Subscriber Line หรือ Very High Bit Rate Digital Subscriber Line เป็นเทคโนโลยีการรับส่งข้อมูลผ่านสายแบบดิจิตอลที่มีความเร็วสูงที่สุดในกลุ่ม DSL คือ สามารถทำความเร็วด้มากถึงกว่า 50 เม็กกะบิตต่อวินาที ในทางทฤษฎีโดยพื้นที่ให้บริการห่างจากตู้ชุมสายไม่เกิน 1.5 กิโลเมตร จึงจะสามารถทำความเร็วได้สูงสุด หากระยะห่างออกไป ความเร็วจะแปรผันตามระยะทาง

การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านสื่ออื่นๆ นอกจากนั้นยังมีการเชื่อมต่อ อินเทอร์เน็ต ความเร็วสูงผ่านข่ายสายไฟฟ้า (Broadband Power Line)
ล่าสุดผู้ให้บริการไฟฟ้าทั้งสามแห่งได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมจาก กทช. ให้สามารถให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านสายไฟฟ้าในประเทศได้ ต่อมาเทคโนโลยีไร้สายเริ่มแพร่หลายในวงการโทรคมนาคมโดยเริ่มจากการใช้ WiFi ของ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สายนอกจากนั้นก็ยังมีการเชื่อมต่อ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านดาวเทียม ที่รู้จักกันในนาม iPSTAR เรียกได้ว่าเป็นดาวเทียมแบบ interactive ดวงแรก
และพัฒนาเป็น WISP หรือ Wireless ISP ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ การเชื่อมต่อ อินเทอร์เน็ต ความเร็วสูง
ไร้สายที่เรียกโดยรวมว่า Broadband Wireless Access (BWA) หรือชื่อทางการค้าอย่าง WiMax เป็นต้น
WiMAX กล่าวให้เข้าใจง่ายคือ การเชื่อมต่อ อินเทอร์เน็ตไร้สาย ที่ครอบคลุมพื้นที่กว้างเป็น สิบๆ กิโลเมตร

บริการบนอินเตอร์เน็ต internet service
World Wide Web เป็นเครือข่ายย่อยของอินเทอร์เน็ตที่เกิดขึ้นในปี 1989 โดย ทิม เบอร์เนอร์ ลี นักวิศวกรรมซอฟต์แวร์จากห้องปฏิบัติการ ทางจุลภาคฟิสิกส์แห่งยุโรปหรือ CERN (Conseil European
pour la Recherche Nucleaire) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยใช้ตัวอักษรและภาพกราฟิก ข้อมูลจะอยู่ในลักษณะ ของมัลติมีเดีย แสดงผลในรูปของ hypertext links

บริการค้นหาข้อมูลผ่านเครือข่าย WWW (World Wide Web)
WWW เป็นบริการที่ให้ผู้ใช้สามารถเข้าไปค้นหาข้อมูลต่างๆ ในอินเทอร์เน็ตได้ง่ายและสะดวก ด้วยลักษณะของการแสดงผลในรูปของ Hypertext Links ซึ่งเป็นวิธีการที่จะเชื่อมโยงข้อมูลจากเอกสารหนึ่งไปยังเอกสารอื่น ๆ ได้อย่างสะดวก
WWW จะอยู่ในลักษณะของมัลติมีเดีย (Multimedia) คือ มีทั้งตัวอักษร รูปภาพ เสียง และภาพเคลื่อนไหว ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลเกือบทุกประเภทผ่านทางเครือข่ายนี้ได้ ไม่ว่าเป็นบทความ ข่าว งานวิจัยข้อมูลสินค้า หรือบริการต่างๆ สาระบันเทิงประเภทต่างๆ รวมถึงฟังเพลงและชมภาพยนตร์

Time Berners Lee ได้ใช้เทคโนโลยีต่างๆออกแบบWorld wild web ขึ้นก่อให้เกิดประโยชน์ในการเชื่อมโยงสารสนเทศจากห้องสมุดต่างๆอย่างกว้างขวางและแพร่หลายในลักษณะของสื่อประสม
โปรแกรมค้นดูเว็บ (Web Browser ) โปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์จะทำงานโดยดึงข้อมูลซึ่งจัดเก็บอยู่ในรูปแบบที่เรียกว่า HTML (HyperText MarkupLanguage) มาจากเว็บเซิร์ฟเวอร์และแปลความหมายของรูปแบบข้อมูล ที่ได้กำหนดเอาไว้เพื่อนำเสนอแก่ผู้ใช้
Microsoft Internet Explorer (IE) เป็นเว็บเบราว์เซอร์ ที่กำลังได้รับความนิยมมากที่สุด ผลิตโดย บริษัท Microsoft มีประสิทธิภาพสูง
Plowman Browser พัฒนาโดยคนไทย สามารถใช้งานได้ดีในระดับเดียวกับเว็บบราวเซอร์ชั้นแนวหน้าอื่นๆ แต่มีความสะดวกในการใช้งานมากกว่าทั้งนี้เนื่องจากเมนู การใช้งานสามารถสลับภาษาภาษาไทยและภาษาอังกฤษได้

โฮมเพจ เว็บเพจ และเว็บไซต์ (home page , web page และ web site)
web page หน้าเอกสารที่เป็นกระดาษแต่ละหน้า
home page หน้าแรกที่ผู้ใช้จะพบเมื่อเรียกเข้าไปยัง เว็บไซต์ใด
Web Site โฮมเพจและเว็บเพจหลาย ๆ หน้าซึ่งเป็น ของหน่วยงานเดียวกัน

เว็บเซิร์ฟเวอร์ (web server)
คือเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่เก็บข้อมูลทุกอย่างที่แสดงผลนเว็บไซต์ ในรูปแบบของเอกสาร HTML โดยเว็บเซิร์ฟเวอร์จะทำหน้าที่ส่งเอกสาร HTML ไปแสดงผลในเว็บบราวเซอร์ของผู้ใช้เมื่อมีการเรียกใช้

วัตถุประสงค์ในการใช้อินเทอร์เน็ต
1.เพื่อการสื่อสาร (communication) เช่น e-mail chat และ webboard
2.เพื่อข้อมูลข่าวสาร (information) ป็นลักษณะของการใช้งานสารสนเทศผ่านเครือข่ายเวิลด์ไวด์เว็บ (www)
3. เพื่อความบันเทิง (entertainment) เช่น เว็บไซต์บันเทิง เกมส์คอมพิวเตอร์ การดูหนังฟังเพลง
4. เพื่อดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจ (business) เช่น เป็นช่องทางโฆษณา ประชาสัมพันธ์ แสดงสินค้า
และให้บริการลูกค้า เป็นต้น

ระบบการแทนชื่อในอินเทอร์เน็ตการเรียกชื่ออินเทอร์เน็ต มี 3 ระดับดังนี้
1. IP Address (Internet Protocol Address)
2. DNS (Domain Name System)
3. URL (Uniform Resource Locator)

IP Address
เป็นหมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อในเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะเป็นหมายเลขให้คอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ๆ เชื่อมโยงถึงได้ แต่หมายเลขจำยาก จึงเทียบเคียงเป็นตัวอักษร
Domain Name System
คือ ระบบการแทนหมายเลขไอพีของเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยชื่อที่สื่อความหมายและเข้าใจได้ง่าย

โดเมนเนมระดับสูงสุด (top level domain)
คือส่วนที่อยู่ตำแหน่งขวาสุด เป็นส่วนที่บอกชื่อประเทศและลักษณะขององค์กร แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
* โดเมนเนมระดับสูงสุดที่บอกถึงประเทศเจ้าของโดเมน
* โดเมนเนมระดับสูงสุดที่บอกถึงประเภทของ องค์กรเจ้าของโดเมน

URL (Uniform Resource Locator)
เป็นหลักการกำหนดชื่ออ้างอิงของทรัพยากรต่าง ๆ ที่อยู่ภายในเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สามารถบ่งบอกชื่อหรือแอดเดรสของเครื่องคอมพิวเตอร์ในเครือข่าย และโปรโตคอลที่ใช้งาน
URL ย่อมาจาก Uniform Resource Locator หมายถึงรหัสค้นข้อมูลบนข่ายงานอินเตอร์เน็ตที่เป็นบริการเวิล์ดไวด์เว็บ

Hyper Text Transport Protocol (HTTP)
กฎเกณฑ์การส่งไฮเพอร์เท็กซ์ (เอชทีทีพี) มาตรฐานอินเทอร์เนตที่สนับสนุนการแลกเปลี่ยนข้อมูลบนเวิลด์ไวด์เว็บ โดยการกำหนดที่ตั้งทรัพยากรที่สอดคล้องกัน รวมถึงแฟ้มที่เข้าถึงได้ในกฎเกณฑ์การถ่ายโอนแฟ้ม (File Transfer Protocol : FTP)

ภาษา HTML (Hyper Text Markup Language)
เป็นภาษาคอมพิวเตอร์รูปแบบหนึ่ง ที่มีลักษณะเป็นภาษาในเชิงการบรรยายเอกสารแบบไฮเปอร์มีเดีย (hypermedia document description language)

host แม่ข่าย , แม่งาน คอมพิวเตอร์เครื่องใดๆ ในอินเทอร์เน็ตที่สามารถทำงานเป็นจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดในการถ่ายโอนข้อมูล คอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่นี้จะมีเลขอยู่ (เรียกว่า IP address) และชื่อเขตเป็นของตนเอง

วิธีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
การเชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ตแบบต่างๆ ,การเชื่อมต่อแบบหมุนโทรศัพท์ ( Dial up connection ) ,
ISDN (Integrated Services Digital Network) , ADSL (Asymmetric Digital Subscriber Line) ,Cable Modem , Satellite *Leased Line , WiFi , WiMax , Air card

โปรแกรมค้นหา (Search Engine)
เป็นโปรแกรมที่คอยอ่านข้อมูลแต่ละหน้าหรือเว็บเพจจากเว็บไซต์ต่าง ๆ โดยอัตโนมัติ จากนั้นจึงนำเว็บเพจที่อ่านได้มาทำดัชนีเก็บไว้ในฐานข้อมูล เป็นเครื่องมือช่วยค้นหาข้อมูลหรือเว็บเพจ, เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ทำหน้าที่ค้นหาข้อมูล รูปภาพ หรือเว็บเพจ ในรูปแบบเท็กซ์ หรืออื่นๆ
โปรแกรมค้นหาแบบศัพท์ดัชนี (Index Search Engine) เป็นโปรแกรมค้นหาที่ใช้โรบอท สไปเดอร์ หรือ ครอเลอร์ เข้าไปสำรวจข้อมูลในส่วนที่ผู้จัดทำเว็บไซต์กำหนดให้เป็นคำค้น จากเอกสาร HTML ในเว็บต่างๆ
โปรแกรมค้นหาแบบศัพท์อิสระ (Keyword Search Engine) เป็นโปรแกรมค้นหาทำหน้าที่เข้าไปอ่านหน้าของเอกสารของเว็บต่างๆแล้วนำคำสำคัญที่ปรากฏอยู่ในแต่ละหน้ามาจัดทำเป็นฐานข้อมูลโดยอัตโนมัติ
โปรแกรมค้นหาแบบหลายโปรแกรม (Meta Search Engine) โปรแกรมค้นหาแบบหลายโปรแกรม (Meta Search Engine) โปรแกรมประเภทนี้ไม่มีการจัดทำฐานข้อมูลเป็นของตนเองแต่จะไปดึงเอาข้อมูลจากฐานข้อมูลอื่น ๆ มาแสดงผล

การค้นหาข้อมูลด้วย search engine
เทคนิคการค้นหาโดยใช้คำสำคัญ (keyword) 1. คำสำคัญที่เป็นภาษาไทย 2. คำสำคัญที่เป็นภาษาอังกฤษ 3. คำสำคัญที่มีทั้ง 2 ภาษาปนกัน

ตัวอย่างการค้นหาข้อมูลด้วย search engine
www.siamguru.com แบ่งการค้นหาเป็น 4 รูปแบบคือ
ค้นหาเว็บไซต์ (Basic Search) เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วๆ ไปที่ยังไม่มีความรู้มากนัก
ค้นหาเว็บไซต์แบบซูเปอรเสิร์ช (Super Search) เป็นบริการสืบค้นข้อมูลแบบมีเงื่อนไข สำหรับการค้นหาที่มีการเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น
ค้นหาเพลง (Music Search) บริการค้นหาเพลง , เนื้อร้อง จากเว็บเพจต่างๆ โดยสามารถค้นหาได้จากชื่อเพลง ชื่อนักร้อง ชื่ออัลบั้ม หรือ คำร้องจากท่อนใดท่อนหนึ่งก็ได้
ค้นหารูปภาพ (Image Search) บริการค้นหา ภาพถ่าย ภาพกราฟฟิก ภาพการ์ตูน


คำถามท้ายบทที่ 4

1.  จงอธิบายความหมายและความสำคัญของอินเทอร์เน็ต
      ความหมายของอินเทอร์เน็ต
     ตอบ อินเทอร์เน็ต (Internet) หมายถึง เครือข่ายเฉพาะส่วนขององค์การ หรือหน่วยงาน ที่นำซอฟต์แวร์ หรือฮาร์ดแวร์แบบอินเทอร์เน็ตมาประยุกต์ใช้ อินทราเน็ตจึงเป็นเครือข่าย เพื่อระบบงานภายในโดยมุ่งเน้นข้อมูลและสารสนเทศเพื่อบริการแก่บุคลากร เครือข่ายอินทราเน็ต จะต่อเชื่อมเข้าสู่อินเทอร์เน็ตด้วยหรือไม่นั้นไม่ใช่สิ่งสำคัญ แต่แนวคิดหลักของอินทราเน็ต คือ การสร้างเครือข่ายในองค์การโดยมีคอมพิวเตอร์ทำหน้าที่เป็นอินเทอร์เน็ตเซิร์ฟเวอร์เพื่อให้บริการข้อมูลในรูปแบบเดียวกับที่ใช้งานในอินเทอร์เน็ต และขยายเทอร์มินัลเครือข่ายไปยังทุกแผนก ให้บุคลากรสามารถค้นข้อมูลและสื่อสารถึงกันได้ เซิร์ฟเวอร์หลักภายในอินเทอร์เน็ต คือ เว็บเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งใช้เป็นศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารระบบ WWW ให้บริการข้อมูลได้ทั้งข้อความเสียง ภาพนิ่ง หรือภาพเคลื่อนไหวผ่านทางโปรแกรม Browser ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ง่ายต่อการเรียนรู้และใช้งานโปรแกรม Browser ส่วนใหญ่ได้ผนวกบริการหลักของอินเทอร์เน็ตไว้ในตัว เช่น จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) การถ่ายโอนย้ายแฟ้ม (FTP) หรือกระดานข่าย (Use Net) เป็นต้น

     ความสำคัญของอินเทอร์เน็ต
     หลายประเทศทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) หรือเรียกโดยย่อว่า “ไอที” ซึ่งหมายถึง ความรู้ในวิธีการประมวลผล จัดเก็บรวบรวม เรียกใช้ และนำเสนอข้อมูลด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องมือที่จำเป็นต้องใช้สำหรับงาน ไอที คือ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคม ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารไม่ว่าจะเป็นสายโทรศัพท์ ดาวเทียม หรือเคเบิลใยแก้วนำแสง อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือสำคัญอย่างหนึ่งในการประยุกต์ใช้ไอที หากเราจำเป็นต้องอาศัยข้อมูลข่าวสารในการทำงานประจำวัน อินเทอร์เน็ตจะเป็นช่องทางที่ทำให้เราเข้าถึงข้อมูลได้ในเวลาอันรวดเร็ว

2.  การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์แบบมีสายมีกี่ประเภท แต่ละประเภทมีข้อแตกต่างกันอย่างไร
   ตอบ  1. การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตรายบุคคล (Individual Connection)  การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตรายบุคคล คือ การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตจากที่บ้าน (Home user) ซึ่งยังต้องอาศัยคู่สายโทรศัพท์ในการเข้าสู่เครือข่ายอินเตอร์เน็ต ผู้ใช้ต้องสมัครเป็นสมาชิกกับผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตก่อน จากนั้นจะได้เบอร์โทรศัพท์ของผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต รหัสผู้ใช้ (User name) และรหัสผ่าน (Password) ผู้ใช้จะเข้าสู่ระบบอินเตอร์เน็ตได้โดยใช้โมเด็มที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้หมุนไปยังหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต จากนั้นจึงสามารถใช้ งานอินเตอร์เน็ตได้
     2. การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบองค์กร (Corporate Connection) การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบองค์กรนี้จะพบได้ทั่วไปตามหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน หน่วยงานต่างๆ เหล่านี้จะมีเครือข่ายท้องถิ่น (Local Area Network : LAN) เป็นของตัวเอง ซึ่งเครือข่าย LAN นี้เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตตลอดเวลา ผ่านสายเช่า (Leased line) ดังนั้น บุคลากรในหน่วยงานจึงสามารถใช้อินเตอร์เน็ตได้ตลอดเวลา การใช้อินเตอร์เน็ตผ่านระบบ LAN ไม่มีการสร้างการเชื่อมต่อ(Connection) เหมือนผู้ใช้รายบุคคลที่ยังต้องอาศัยคู่สายโทรศัพท์ในการเข้าสู่เครือข่ายอินเตอร์เน็ต

     ข้อแตกต่าง การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตรายบุคคล   ผู้ใช้จะเข้าสู่ระบบอินเตอร์เน็ตได้โดยใช้โมเด็มที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้หมุนไปยังหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต จากนั้นจึงสามารถใช้ งานอินเตอร์เน็ตได้

การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบองค์กร  สามารถใช้อินเตอร์เน็ตได้ตลอดเวลา การใช้อินเตอร์เน็ตผ่านระบบ LAN ไม่มีการสร้างการเชื่อมต่อ(Connection) เหมือนผู้ใช้รายบุคคลที่ยังต้องอาศัยคู่สายโทรศัพท์ในการเข้าสู่เครือข่ายอินเตอร์เน็ต

3.  จงอธิบายองค์ประกอบและข้อดีของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบโทรศัพท์ ADSL
    ตอบ เป็นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านสายโทรศัพท์แบบเดิม แต่ใช้ความถี่สูงกว่าระบบโทรศัพท์แบบเดิม จะมีการติดตั้งอุปกรณ์ คือ DSLAM เพื่อทำการแยกสัญญานความถี่สูงออกจากระบบโทรศัพท์เดิม และลัดเข้าการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยตรง ผู้ใช้ต้องมี ADLS Modem ทำหน้าที่แปลงสัญญาน และ splitter เพื่อแยกสัญญานความถี่สูงจากสัญญานแบบโทรศัพท์ธรรมดา
     ข้อดี 1. สามารถเล่นอินเทอร์เน็ต และโทรศัพท์ได้ในเวลาเดียวกัน
             2. มีความเร็วสูง

4.  จงอธิบายหลักการทำงานพื้นฐานของโปรโตคอล TCP/IP
    ตอบ  ทำหน้าที่แบ่งข้อมูลออกเป็นหน่วยย่อยๆเรียกว่า Package ซึ่งแต่ละ Package จะมีการระบุส่วนหัวที่ระบุถึงหมายเลขที่อยู่ IP ของปลายทางและต้นทางและข้อมูลอื่นๆ เพื่อทำการส่งข้อมูลไปในเครื่อข่ายซึ่งมีหลายเส้นทางโดยเร้าเตอร์จะเป็นตัวจัดเส้นทางในการส่งแพ็กเกจ ไปยังโหนดถัดไป อาจจะไปไม่พร้อมกันทั้งหมดแต่เมื่อถึงจุดหมายจะรวบรวมแพกเกจทั้งหมดเข้ามาแล้วคืนสภาพกลับเป็นข้อมูลเดิม